ถ้าปล่อยให้รกร้างว่างเปล่าต้องเสียภาษีที่ดินในอัตรา 0.3-0.7 เปอร์เซ็นต์ต่อปีและจะเพิ่มขึ้นทุก 3 ปี ตามกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย.2563 ต้องหันมาปลูกไม้มีค่า
กฎหมายที่ปรับแก้กำหนดให้สามารถตัดไม้ยืนต้นได้โดยไม่ผิดกฎหมายในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง เช่น โฉนด นส.3 ก. ใบจอง สค.1 เป็นต้น หรือให้ยกเลิกไม้หวงห้ามในที่ดินเอกชนและที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวรอประกาศในราชกิจจาฯ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ประมาณ เดือน มี.ค. หรือเดือน เม.ย.2562
อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กฎหมายเดิมระบุว่า “ไม้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจบางชนิด ได้แก่ ไม้สัก ไม้ยาง ไม้ชิงชัน ไม้เก็ดแดง ไม้อีเม่ง ไม้พยุงแกลบ ไม้กระพี้ ไม้แดงจีน ไม้ขะยุง ไม้ซิก ไม้กระซิก ไม้กระซิบ ไม้พะยูง ไม้หมากพลูตั๊กแตน ไม้กระพี้เขาควาย ไม้เก็ดดำ ไม้อีเฒ่า ไม้เก็ดเขาควาย ไม่ว่าจะขึ้นอยู่ในที่ใดๆก็ตามในราชอาณาจักร ถือเป็นไม้หวงห้ามทั้งสิ้น”
แต่กฎหมายใหม่ปรับแก้เป็น “ไม้ทุกชนิดที่ขึ้นในที่ดินมีกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน ไม่เป็นไม้หวงห้าม” ดังนั้น ให้การทำไม้โดยเฉพาะไม้มีค่า ไม่ต้องทำเรื่องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่อีกต่อไป หรือกล่าวได้ว่า กฎหมายฉบับนี้ได้ยกเลิกการกำหนดไม้หวงห้ามในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินจะควบคุมเฉพาะไม้ในป่าเท่านั้น
แต่ไม้ในที่ดินตามหนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน ที่ดินในสิทธิครอบครองสามารถตัดได้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนปลูกและตัดไม้ได้สะดวก ผลของการปรับแก้กฎหมายฉบับนี้ จะทำให้ประชาชนมีรายได้ที่มั่นคงจากการประกอบอาชีพทำไม้ปลูกป่าเศรษฐกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจของไทยดีขึ้น ในอนาคตใครที่มีที่ดินสามารถปลูกไม้มีค่าในที่ดินของตนเองได้ ถ้าไม้โตแล้วอยากตัดไปขาย ทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่แล้ว หรืออยากจะเอาไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ทำได้เช่นกัน
อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวอีกว่า กฎหมายดังกล่าวครอบคลุมไม้หวงห้าม จำนวน 158 ชนิด และไม้หายากอีก จำนวน 13 ชนิด คือ
1.กระเบา กระเบาน้ำ กระเบาใหญ่
2.กำจัดต้น มะแข่น แขว่น มะข่วง ลูกระมาศ
3.กำยาน
4.จันทน์ชะมด
5.จันทน์หอม
6.จันทนา จันทน์ขาว
7.ตีนเป็ดแดง เยลูต
8.ปะ กระ
9.รง รงทอง
10.สนแผง สนใบต่อ แปกลม
11.สำรอง พุงทะลาย ท้ายเภา
12.แสลงใจ แสลงไหน แสลงทม แสลงเบื่อ แสงเบื่อ มะตึ่ง ตึ่งต้น บึงกา ตูมกา ตึ่งตูมกาขาว และ
13. แหลง แสลง ยวนผึ้ง ผึ้ง ลุง ที่สำคัญผลของการแก้กฎหมายจะทำให้ผู้ที่โดนคดีตัดไม้ในที่ดินตัวเองหลายสิบราย ต้องพ้นโทษถือว่าไม่มีความผิดต้องปล่อยตัวออกหมด
เพราะถ้าปล่อยให้รกร้างว่างเปล่าจะต้องเสียภาษีที่ดินในอัตรา 0.3-0.7 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และจะเพิ่มขึ้นทุก 3 ปี ตามกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย.2563 สมมติถ้าราคาที่ดินเกิน 100 ล้านบาท จะต้องเสียภาษีประมาณ 7 แสนบาทต่อปี
หน้าที่เข้าชม | 110,512 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 80,382 ครั้ง |
เปิดร้าน | 18 มี.ค. 2561 |
ร้านค้าอัพเดท | 12 ก.ย. 2568 |